เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า การมี friendly-URL structure คือหนึ่งในสิ่งที่สำคัญมากสำหรับ SEO เพราะ URL นั้น นอกจากจะเป็นสิ่งแรกที่ผู้ใช้ และ Google จะเห็นสำหรับหน้าเว็บไซต์นั้นๆ แล้ว ยังเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึง path และ direction สำหรับให้ผู้ใช้ทราบถึง site hierarchy อีกด้วย เพราะฉะนั้น การเรียนรู้เรื่อง friendly-URL structure จึงเป็นสิ่งสำคัญ และวันนี้ ทาง SEO aCommerce ได้มีการทำ checklist สำหรับการสร้างโครงสร้าง URL ที่ดี มาเริ่มกันเลย!
- URL ยิ่งอ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย ยิ่งดี
Google จะชอบ URL ที่สามารถอ่านได้ง่าย มากกว่า URL ที่อ่านแล้วไม่สามารถเข้าใจได้โดยผู้ใช้ทั่วไป ตัวอย่างเช่น ถ้าหน้าเว็บไซต์นั้นเกี่ยวกับกางเกง skinny jeans URL ที่ดีก็ควรจะมีคำนั้นอยู่ด้วย เป็นต้น - มี Keyword ใน URL ด้วย
เนื่องจาก keyword เป็นสิ่งที่จะบอกได้ว่า หน้าเว็บนั้นเกี่ยวกับอะไร เราจึงควรใส่ keyword ใน URL เพื่อให้ผู้อ่านและ Google เข้าใจว่า เรากำลังจะพูดถึงอะไร มากไปกว่านั้น การมี keyword ใน URL ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ Google ให้คะแนนหน้านั้นๆ มากขึ้น ส่งผลให้อันดับในหน้า SERP ดีขึ้นอีกด้วย - หลีกเลี่ยงการทำ URL แบบ parameter
ตัวอย่าง URL ที่เป็น parameter เช่น https://domain.com/cat/?cid=7078 ซึ่งเป็น URL ที่ไม่สามารถอ่านเข้าใจได้ ถ้าหากเว็บไซต์มี URL ที่เป็น parameter แบบนี้ ควรจะเปลี่ยนให้เป็นแบบอ่านง่าย (หลักการเดียวกับข้อ 1.) - URL สั้นดีกว่า URL ที่มีความยาวเกินไป
URL ที่มีความยาวประมาณ 50-60 ตัวอักษรนั้น ถือว่าผ่านเกณฑ์ แต่ถ้าหากมีความยาวเกิน 100 ตัวอักษรขึ้นไป เราแนะนำให้เปลี่ยนให้สั้นและกระชับขึ้น เรื่องนี้อาจไม่ได้ส่งผล SEO โดยตรง แต่จะมีผลเรื่องของ user experience มากกว่า เพราะ URL ที่ยาวเกินไปอาจมีผลต่อการนำไปแชร์ใน social media ต่างๆ หรือทำให้ผู้ใช้ไม่กล้ากด URL นั้นๆ เพราะดูยาวจนเกินไป - URL ควรไปในทิศทางเดียวกับหัวข้อเรื่อง
การมี URL ที่ไปในทิศทางเดียวกับหัวข้อเรื่องนั้น อาจไม่ได้หมายความว่าจะต้องเหมือนกัน 100% แต่ควรจะมีความเกี่ยวข้องกัน ตัวอย่าง URL จากเว็บไซต์ข่าว เช่น
สำหรับ URL ด้านบน ผู้อ่านจะไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าข่าวเกี่ยวกับอะไร ซึ่งต่างจาก URL ด้านล่าง ที่สามารถอ่านและเข้าใจได้ทันที - Hyphens เป็นสิ่งที่ควรใช้ในการแบ่งคำ
หลายคนอาจใช้การเว้นวรรค แต่การเว้นวรรคนั้น จะทำให้เกิดสัญลักษณ์ %20 เมื่อนำ URL ไป paste ในที่ต่างๆ ซึ่งส่งผลให้ URL นั้นอ่านยาก ดังนั้น เราจึงแนะนำให้ใช้ hyphens ในการแบ่งคำ ตัวอย่าง URL ที่ถูกต้อง เช่น
https://seo.acommerce.asia/friendly-structuring-urls - ไม่ควรใช้ Keyword Stuffing หรือการย้ำ keyword หลายครั้ง
จากตัวอย่างข้างบนนี้ จะเห็นได้ว่ามีคำว่า “puppies” อยู่หลายตำแหน่ง ซึ่งวิธีการนี้ นอกจากจะไม่ได้ส่งผลให้ SEO ดีขึ้นแล้ว ยังทำให้ดู spam อีกด้วย ดังนั้น ควรจะแก้ URL เป็น www.arcademics.com/games/canoe-puppies.html
หลังจากที่รู้แล้วว่า URL ที่ดีมีความสำคัญขนาดไหน อย่าลืมนำ checklist นี้ไปตรวจสอบกับเว็บไซต์ของตัวเอง เพื่อพัฒนาทั้ง user experience และ SEO ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
Credit : moz.com, searchengineland.com